นายไชย ไชยวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เผย บริษัทฯ ดำเนินนโยบายมุ่งสู่การเป็นทุกคำตอบของชีวิต หรือ Life Solutions ให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ทุกภาคส่วน ประกอบกับค่านิยมของไทยประกันชีวิตให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพบุคลากร โดยถือเป็นทรัพยากรและทรัพย์สินที่มีค่าของบริษัทรวมถึงเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันให้บริษัทเติบโตอย่างยั่งยืน
ในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 บริษัทมีความห่วงใยในสุขภาพ ความปลอดภัยของบุคลากรและสังคมโดยรวม จึงได้สร้างวัฒนธรรมการทำงานขององค์กรให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในยุค New Normal อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการปรับการทำงานทั้งกระบวนการความคิด (Mindset) กระบวนการทำงาน การพัฒนาความรู้และทักษะบุคลากร นำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุน เพื่อให้บุคลากรสามารถทำงานได้เต็มศักยภาพ ไม่ว่าจะทำงานที่ไหน (Anywhere) หรือทำงานเวลาใด (Anytime) รวมถึงสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้เอาประกันภัยอย่างรอบด้าน
ทั้งนี้ การทำงานของบุคลากรสำนักงานใหญ่และสาขา บริษัทได้นำเทคโนโลยี VDI (Virtual Desktop Infrastructure) เพื่อทำให้การ Work Anywhere เป็นเรื่องง่าย บุคลากรสามารถทำงานเสมือนอยู่ในออฟฟิศ และสร้างแพลตฟอร์ม Document Image Management ในการจัดเก็บเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งนอกจากจะอำนวยความสะดวกในการทำงานแล้ว ยังลดปริมาณการใช้กระดาษ โดยตั้งแต่ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกแรก บริษัทได้นำเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มดังกล่าวใช้ในส่วนงานที่เป็น Core Business ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ต้องให้บริการด้านธุรกรรมประกันชีวิตแก่ผู้เอาประกันภัยเป็นลำดับแรก และจะขยายไปยังส่วนงานอื่นๆ ต่อเนื่อง
บริษัทยังได้นำเทคโนโลยี Google G Suite หรือ G Suite มาเสริมการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยให้บุคลากรติดต่อสื่อสารและทำงานร่วมกันแบบ Collaboration และตอบโจทย์การ Work Anywhere ของบุคลากรได้อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ การนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการทำงานของบริษัทอยู่บนพื้นฐานการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าอย่างเคร่งครัด นอกจากนั้น บริษัทตระหนักถึงความปลอดภัยของบุคลากรทุกระดับ จึงจัดรูปแบบการทำงานแบบ Splitting Team และแบบ Flexible Working Hour เพื่อลดความแออัดและลดความเสี่ยงจากการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19
(สยามธุรกิจ 27 ก.พ.-12 มี.ค./น.14)