กรุณาเลือกหมวดคำถามที่พบบ่อย
1.1 สามารถชำระเบี้ยประกันผ่านช่องทางใดได้บ้าง
ตอบ ท่านสามารถชำระเบี้ยประกันผ่านช่องทางต่างๆ ได้ดังนี้
1. ชำระผ่านบริษัทไทยประกันชีวิตจำกัด (มหาชน) ทุกสาขาทั่วประเทศ
2. ชำระผ่านตัวแทน
3. ชำระผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร
4. ชำระผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส
5. ชำระผ่านเคาน์เตอร์ไปรษณีย์
6. ชำระผ่านทางระบบ Internet
7. ชำระผ่านระบบโทรศัพท์มือถือ Mobile Payment (mPay)
1.2 สามารถชำระเบี้ยประกันด้วยบัตรเครดิตได้หรือไม่
ตอบ ท่านสามารถชำระเบี้ยประกันด้วยบัตรเครดิตได้ ทั้งนี้ต้องเป็นแบบประกันที่บริษัทได้กำหนดไว้ โดยบัตรเครดิตที่สามารถชำระได้มีรายละเอียด ดังนี้
1. เป็นบัตร VISA และ MASTER และ JCB
2. ผู้ถือบัตรเครดิต (เจ้าของบัตรเครดิต) สามารถชำระเบี้ยประกันภัยของตนเอง บิดามารดา สามี ภรรยา และบุตร หรือบัตรเครดิตของผู้รับประโยชน์สามารถชำระเบี้ยประกันให้ผู้เอาประกันได้
ตอบ ท่านสามารถชำระเบี้ยประกันผ่านช่องทางต่างๆ ได้ดังนี้
1. ชำระผ่านบริษัทไทยประกันชีวิตจำกัด (มหาชน) ทุกสาขาทั่วประเทศ
2. ชำระผ่านตัวแทน
3. ชำระผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร
4. ชำระผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส
5. ชำระผ่านเคาน์เตอร์ไปรษณีย์
6. ชำระผ่านทางระบบ Internet
7. ชำระผ่านระบบโทรศัพท์มือถือ Mobile Payment (mPay)
1.2 สามารถชำระเบี้ยประกันด้วยบัตรเครดิตได้หรือไม่
ตอบ ท่านสามารถชำระเบี้ยประกันด้วยบัตรเครดิตได้ ทั้งนี้ต้องเป็นแบบประกันที่บริษัทได้กำหนดไว้ โดยบัตรเครดิตที่สามารถชำระได้มีรายละเอียด ดังนี้
1. เป็นบัตร VISA และ MASTER และ JCB
2. ผู้ถือบัตรเครดิต (เจ้าของบัตรเครดิต) สามารถชำระเบี้ยประกันภัยของตนเอง บิดามารดา สามี ภรรยา และบุตร หรือบัตรเครดิตของผู้รับประโยชน์สามารถชำระเบี้ยประกันให้ผู้เอาประกันได้
1.1 กรณีผู้เอาประกันเปลี่ยนแปลงชื่อ-สกุล ต้องติดต่อที่ไหน
ตอบ ท่านสามารถดำเนินการเปลี่ยนแปลงชื่อ - สกุลได้ โดยติดต่อได้ที่บริษัทไทยประกันชีวิตจำกัด (มหาชน) ทุกสาขาทั่วประเทศ
1.2 กรณีผู้เอาประกันเปลี่ยนชื่อ-สกุล ต้องใช้เอกสารใดบ้าง
ตอบ เอกสารการดำเนินการเปลี่ยนชื่อ - สกุล มีดังนี้
1. กรมธรรม์
2. คำร้องขอเปลี่ยนแปลงแก้ไขกรมธรรม์ (ปช.108)
3. เอกสารการเปลี่ยนชื่อหรือชื่อ-สกุล ที่ทางราชการออกให้
4. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (ที่มีการเปลี่ยนชื่อหรือชื่อ-สกุลแล้ว)
1.3 กรณีผู้เอาประกันมีการเปลี่ยนที่อยู่ ต้องดำเนินการอย่างไร
ตอบ ท่านสามารถดำเนินการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ได้ ดังนี้
1. บริษัทไทยประกันชีวิตจำกัด (มหาชน) ทุกสาขาทั่วประเทศ
2. สำนักงานใหญ่บริษัทไทยประกันชีวิตฯ ส่วนบริการผู้เอาประกัน ชั้น 1
3. จัดส่งบันทึกจากผู้เอาประกันทางโทรสาร (Fax) มาที่หมายเลข 0-2246-9948 หรือ 0-2246-9663
4. ทาง E-mail: policyservice@thailife.co.th
5. จัดส่งเอกสารทางไปรษณีย์มาที่ บริษัทไทยประกันชีวิตจำกัด (มหาชน)ส่วนบริการผู้เอาประกัน ชั้น 1 เลขที่ 123 ถนนรัชดาภิเษก เขตดินแดงกรุงเทพ ฯ 10400
หมายเหตุ: หากผู้เอาประกันต้องการติดตามเอกสาร สามารถติดต่อได้ที่ส่วน-บริการผู้เอาประกัน หมายเลข 0-2247-0247 ต่อหมายเลข 3142หรือ 3105 เอกสารการดำเนินการคำร้องขอเปลี่ยนแปลงแก้ไขกรมธรรม์ (ปช.108) หรือแบบ-ฟอร์มแก้ไขสถานที่ติดต่อด้านหลังใบแจ้งเตือนการชำระเบี้ย-ประกัน หรือบันทึกจากผู้เอาประกัน โดยให้ผู้เอาประกันระบบ
รายละเอียดดังนี้
1. ชื่อ-สกุลของผู้เอาประกัน
2. หมายเลขกรมธรรม์
3. ที่อยู่ใหม่ที่ต้องการเปลี่ยนแปลง
4. หมายเลขโทรศัพท์
5. ลงนามให้เหมือนในใบคำขอเอาประกัน
ตอบ ท่านสามารถดำเนินการเปลี่ยนแปลงชื่อ - สกุลได้ โดยติดต่อได้ที่บริษัทไทยประกันชีวิตจำกัด (มหาชน) ทุกสาขาทั่วประเทศ
1.2 กรณีผู้เอาประกันเปลี่ยนชื่อ-สกุล ต้องใช้เอกสารใดบ้าง
ตอบ เอกสารการดำเนินการเปลี่ยนชื่อ - สกุล มีดังนี้
1. กรมธรรม์
2. คำร้องขอเปลี่ยนแปลงแก้ไขกรมธรรม์ (ปช.108)
3. เอกสารการเปลี่ยนชื่อหรือชื่อ-สกุล ที่ทางราชการออกให้
4. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (ที่มีการเปลี่ยนชื่อหรือชื่อ-สกุลแล้ว)
1.3 กรณีผู้เอาประกันมีการเปลี่ยนที่อยู่ ต้องดำเนินการอย่างไร
ตอบ ท่านสามารถดำเนินการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ได้ ดังนี้
1. บริษัทไทยประกันชีวิตจำกัด (มหาชน) ทุกสาขาทั่วประเทศ
2. สำนักงานใหญ่บริษัทไทยประกันชีวิตฯ ส่วนบริการผู้เอาประกัน ชั้น 1
3. จัดส่งบันทึกจากผู้เอาประกันทางโทรสาร (Fax) มาที่หมายเลข 0-2246-9948 หรือ 0-2246-9663
4. ทาง E-mail: policyservice@thailife.co.th
5. จัดส่งเอกสารทางไปรษณีย์มาที่ บริษัทไทยประกันชีวิตจำกัด (มหาชน)ส่วนบริการผู้เอาประกัน ชั้น 1 เลขที่ 123 ถนนรัชดาภิเษก เขตดินแดงกรุงเทพ ฯ 10400
หมายเหตุ: หากผู้เอาประกันต้องการติดตามเอกสาร สามารถติดต่อได้ที่ส่วน-บริการผู้เอาประกัน หมายเลข 0-2247-0247 ต่อหมายเลข 3142หรือ 3105 เอกสารการดำเนินการคำร้องขอเปลี่ยนแปลงแก้ไขกรมธรรม์ (ปช.108) หรือแบบ-ฟอร์มแก้ไขสถานที่ติดต่อด้านหลังใบแจ้งเตือนการชำระเบี้ย-ประกัน หรือบันทึกจากผู้เอาประกัน โดยให้ผู้เอาประกันระบบ
รายละเอียดดังนี้
1. ชื่อ-สกุลของผู้เอาประกัน
2. หมายเลขกรมธรรม์
3. ที่อยู่ใหม่ที่ต้องการเปลี่ยนแปลง
4. หมายเลขโทรศัพท์
5. ลงนามให้เหมือนในใบคำขอเอาประกัน
1 สามารถรับเงินครบกำหนดสัญญาได้กี่วิธี
ตอบ ท่านสามารถดำเนินการรับเงินครบกำหนดสัญญาได้ 4 วิธี ดังนี้
1. ติดต่อด้วยตนเอง
2. มอบฉันทะให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน
3. ให้บริษัทโอนเงินเข้าบัญชีผู้เอาประกัน
4. ให้บริษัทจัดส่งเช็คไปยังที่อยู่ในกรมธรรม์
1.1 สามารถให้บุคคลอื่นรับเงินครบกำหนดสัญญาแทนได้หรือไม่
ตอบ ท่านสามารถมอบฉันทะให้บุคคลอื่นรับเงินครบสัญญาแทนได้ โดยใช้เอกสาร6 รายการ ดังนี้
1. กรมธรรม์
2. หนังสือมอบฉันทะ
3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เอาประกัน พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
4. บัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบฉันทะ
5. ใบรับเงินเบี้ยประกันงวดสุดท้าย
6. สัญญากู้เงินตามกรมธรรม์ (ถ้ามี)
1.2 สามารถรับเงินครบกำหนดสัญญาได้ที่ใดบ้าง
ตอบ ท่านสามารถดำเนินการรับเงินครบกำหนดสัญญาไดที้่บริษัทไทยประกันชีวิตจำกัด(มหาชน) ทุกสาขาทั่วประเทศ ยกเว้นสาขาในห้าง
ตอบ ท่านสามารถดำเนินการรับเงินครบกำหนดสัญญาได้ 4 วิธี ดังนี้
1. ติดต่อด้วยตนเอง
2. มอบฉันทะให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน
3. ให้บริษัทโอนเงินเข้าบัญชีผู้เอาประกัน
4. ให้บริษัทจัดส่งเช็คไปยังที่อยู่ในกรมธรรม์
1.1 สามารถให้บุคคลอื่นรับเงินครบกำหนดสัญญาแทนได้หรือไม่
ตอบ ท่านสามารถมอบฉันทะให้บุคคลอื่นรับเงินครบสัญญาแทนได้ โดยใช้เอกสาร6 รายการ ดังนี้
1. กรมธรรม์
2. หนังสือมอบฉันทะ
3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เอาประกัน พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
4. บัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบฉันทะ
5. ใบรับเงินเบี้ยประกันงวดสุดท้าย
6. สัญญากู้เงินตามกรมธรรม์ (ถ้ามี)
1.2 สามารถรับเงินครบกำหนดสัญญาได้ที่ใดบ้าง
ตอบ ท่านสามารถดำเนินการรับเงินครบกำหนดสัญญาไดที้่บริษัทไทยประกันชีวิตจำกัด(มหาชน) ทุกสาขาทั่วประเทศ ยกเว้นสาขาในห้าง
1. มีวิธีการรับเงินคืนตามเงื่อนไขกี่วิธี
ตอบ ท่านสามารถรับเงินคืนตามเงื่อนไขได้ 4 วิธี ดังนี้
1. ติดต่อด้วยตนเอง
2. มอบฉันทะให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน
3. ให้บริษัทโอนเงินคืนตามเงื่อนไขเข้าบัญชี
4. ให้บริษัทส่งเช็คเงินคืนตามเงื่อนไขไปยังที่อยู่ในกรมธรรม์
1.1 สามารถรับเงินคืนตามเงื่อนไขได้ที่ใดบ้าง
ตอบ ท่านสามารถดำเนินการรับเงินคืนตามเงื่อนไขได้ที่บริษัทไทยประกันชีวิตจำกัด(มหาชน) ทุกสาขาทั่วประเทศ
ตอบ ท่านสามารถรับเงินคืนตามเงื่อนไขได้ 4 วิธี ดังนี้
1. ติดต่อด้วยตนเอง
2. มอบฉันทะให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน
3. ให้บริษัทโอนเงินคืนตามเงื่อนไขเข้าบัญชี
4. ให้บริษัทส่งเช็คเงินคืนตามเงื่อนไขไปยังที่อยู่ในกรมธรรม์
1.1 สามารถรับเงินคืนตามเงื่อนไขได้ที่ใดบ้าง
ตอบ ท่านสามารถดำเนินการรับเงินคืนตามเงื่อนไขได้ที่บริษัทไทยประกันชีวิตจำกัด(มหาชน) ทุกสาขาทั่วประเทศ
1. มีวิธีการรับเงินปันผลกี่วิธี
ตอบ ท่านสามารถรับเงินปันผลได้ 4 วิธี ดังนี้
1. ติดต่อด้วยตนเอง
2. มอบฉันทะให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน
3. ให้บริษัทโอนเงินปันผลเข้าบัญชี
4. ให้บริษัทส่งเช็คเงินปันผลไปยังที่อยู่ในกรมธรรม์
1.1 สามารถรับเงินปันผลได้ที่ใดบ้าง
ตอบ ท่านสามารถรับเงินปันผลได้ที่บริษัทไทยประกันชีวิตจำกัด (มหาชน) ทุกสาขาทั่ว-ประเทศ
ตอบ ท่านสามารถรับเงินปันผลได้ 4 วิธี ดังนี้
1. ติดต่อด้วยตนเอง
2. มอบฉันทะให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน
3. ให้บริษัทโอนเงินปันผลเข้าบัญชี
4. ให้บริษัทส่งเช็คเงินปันผลไปยังที่อยู่ในกรมธรรม์
1.1 สามารถรับเงินปันผลได้ที่ใดบ้าง
ตอบ ท่านสามารถรับเงินปันผลได้ที่บริษัทไทยประกันชีวิตจำกัด (มหาชน) ทุกสาขาทั่ว-ประเทศ
1. ต้องการเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีเจ็บป่วย ต้องใช้เอกสารใดบ้าง
ตอบ การเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีเจ็บป่วย มีเอกสารที่ต้องใช้ ดังนี้
1. แบบฟอร์มเรียกร้องสินไหมทดแทน (ปช.16)
2. ใบรับรองแพทย์ตามแบบฟอร์มบริษัท (ปช.17)
3. ใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาลต้นฉบับ
4. ใบสรุปรายการค่ารักษาพยาบาล
5. บัตรประชาชนของผู้เอาประกัน
6. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้เอาประกัน (กรณีให้โอนสินไหม-เข้าบัญชี)
1.1 ต้องการเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง ต้องใช้เอกสารใดบ้าง
ตอบ การเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง มีเอกสารที่ต้องใช้ ดังนี้
1. แบบฟอร์มเรียกร้องสินไหมทดแทน (ปช.16)
2. ใบรับรองแพทย์ตามแบบฟอร์มบริษัท (ปช.17)
3. ใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาลต้นฉบับ
4. ใบสรุปรายการค่ารักษาพยาบาล
5. รายงานผลตรวจชิ้นเนื้อหรือรายงานการตรวจจากแพทย ์ด้วยวิธี MRI,CT Scan หรือ X-ray
6. กรมธรรม์เพื่อบันทึกสลักหลัง
7. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้เอาประกัน (กรณีให้โอนสินไหม-เข้าบัญชี)
1.2 ต้องการเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ต้องใช้เอกสารใดบ้าง
ตอบ การเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีเจ็บจากอุบัติเหตุ มีเอกสารที่ต้องใช้ ดังนี้
1. แบบฟอร์มเรียกร้องสินไหมทดแทน (ปช.16)
2. ใบรับรองแพทย์ตามแบบฟอร์มบริษัท (ปช.17)
3. ใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาลต้นฉบับ
4. ใบสรุปรายการค่ารักษาพยาบาล
5. บัตรประชาชนของผู้เอาประกัน
6. สำเนาบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดีที่ได้รับรองสำเนาถูกต้องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ (สำหรับเหตุที่ต้องมีการแจ้งความ)
7. กรณีกระดูกแตกหัก เพิ่มฟิล์มเอ็กซ์เรย
8. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้เอาประกัน (กรณีให้โอนสินไหม-เข้าบัญชี)
1.3 ต้องการเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีกรณีทุพพลภาพ ต้องใช้เอกสารใดบ้าง
ตอบ การเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีทุพพลภาพ มีเอกสารที่ต้องใช้ ดังนี้
1. แบบฟอร์มเรียกร้องสินไหมทดแทน (ปช.16)
2. ใบรับรองแพทย์ตามแบบฟอร์มบริษัท (ปช.17) ใบรายงานของแพทย์
3. ใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาลต้นฉบับ
4. ใบสรุปรายการค่ารักษาพยาบาล
5. กรมธรรม์ (เพื่อบันทึกสลักหลัง)
6. ฟิล์มเอ็กซ์เรย์ (ถ้ามี)
7. หนังสือรับรองการทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง (ถ้ามี)
8. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้เอาประกัน (กรณีให้โอนสินไหม-เข้าบัญชี)
1.4 ต้องการเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีผู้ปกครองทุพพลภาพ ต้องใช้เอกสารใดบ้าง
ตอบ การเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีผู้ปกครองทุพพลภาพ มีเอกสารที่ต้องใช้ ดังนี้
1. แบบฟอร์มเรียกร้องสินไหมทดแทน (ปช.16)
2. ใบรับรองแพทย์ตามแบบฟอร์มบริษัท (ปช.17) ใบรายงานของแพทย์
3. เอกสารของผู้ปกครองที่ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง
3.1 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ปกครองพร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
3.2 สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ปกครอง พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
4. เอกสารของผู้เยาว์
4.1 สำเนาใบสูติบัตร (กรณีอายุเกิน 15 ปี ใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน) พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
4.2 สำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
5. หนังสือรับรองการทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง (ถ้ามี)
6. กรมธรรม์เพื่อบันทึกสลักหลัง
1.5 ต้องการเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิตจากการเจ็บป่วย ต้องใช้เอกสารใดบ้าง
ตอบ การเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยมี 2 กรณีดังนี้กรณีผู้เอาประกันเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยที่บ้าน
1. หนังสือเรียกร้องสินไหมมรณกรรม (ปช.11)
2. สำเนาใบมรณบัตร พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เอาประกัน พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
4. สำเนาทะเบียนบ้านที่มีการจำหน่ายการตายของผู้เอาประกัน พร้อมนำต้น-ฉบับมาแสดงด้วย
5. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับประโยชน์ พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
6. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับประโยชน์ พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
7. กรมธรรม์
8. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้รับผลประโยชน์ (กรณีให้โอนสินไหมเข้าบัญชี)กรณีผู้เอาประกันเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยที่โรงพยาบาล
1. หนังสือเรียกร้องสินไหมมรณกรรม (ปช.11)
2. ใบรับรองแพทย์ (ปช.17) หรือใบรายงานของแพทย์
3. สำเนาใบมรณบัตร พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
4. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เอาประกัน พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
5. สำเนาทะเบียนบ้านที่มีการจำหน่ายการตายของผู้เอาประกัน พร้อมนำต้น-ฉบับมาแสดงด้วย
6. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับประโยชน์ พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
7. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับประโยชน์ พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
8. กรมธรรม์
9. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้รับผลประโยชน์ (กรณีให้โอนสินไหมเข้าบัญชี)
1.6 ต้องการเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิตจากโรคร้ายแรง ต้องใช้เอกสารใดบ้าง
ตอบ การเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิตจากโรคร้ายแรง มีเอกสารที่ต้องใช้ ดังนี้
1. หนังสือเรียกร้องสินไหมมรณกรรม (ปช.11)
2. ใบรับรองแพทย์ (ปช.17) หรือใบรายงานของแพทย์
3. รายงานผลตรวจชิ้นเนื้อหรือรายงานการตรวจจากแพทย ์ด้วยวิธี MRI, CTScan หรือ X-ray
4. สำเนาใบมรณบัตร พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
5. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เอาประกัน พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
6. สำเนาทะเบียนบ้านที่มีการจำหน่ายการตายของผู้เอาประกัน พร้อมนำต้น-ฉบับมาแสดงด้วย
7. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับประโยชน์ พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
8. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับประโยชน์ พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
9. กรมธรรม์
10. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้รับผลประโยชน์ (กรณีให้โอนสิน-ไหมเข้าบัญชี)
1.7 ต้องการเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิจากอุบัติเหตุ ต้องใช้เอกสารใดบ้าง
ตอบ การเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ มีเอกสารที่ต้องใช้ ดังนี้
1. หนังสือเรียกร้องสินไหมมรณกรรม (ปช.11)
2. ใบรับรองแพทย์ (ปช.17) หรือใบรายงานของแพทย์
3. สำเนาใบมรณบัตร พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
4. สำนาบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดี ที่ได้รับรองสำเนาถูกต้องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ (สำหรับเหตุที่ต้องมีการแจ้งความ)
5. สำเนารายงานการชันสูตพลิกศพ
6. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เอาประกัน พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
7. สำเนาทะเบียนบ้านที่มีการจำหน่ายการตายของผู้เอาประกัน พร้อมนำต้น-ฉบับมาแสดงด้วย
8. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับประโยชน์ พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
9. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับประโยชน์ พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
10. กรมธรรม์
11. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้รับผลประโยชน์ (กรณีให้โอนสินไหมเข้าบัญชี)
1.8 ต้องการเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิตจากการถูกฆาตกรรม ต้องใช้เอกสารใดบ้าง
ตอบ การเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิตจากการถูกฆาตกรรม มีเอกสารที่ต้องใช้ดังนี้
1. หนังสือเรียกร้องสินไหมมรณกรรม (ปช.11)
2. ใบรับรองแพทย์ (ปช.17) หรือใบรายงานของแพทย์
3. สำเนาใบมรณบัตร พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
4. สำนาบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดี ที่ได้รับรองสำเนาถูกต้องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ (สำหรับเหตุที่ต้องมีการแจ้งความ)
5. สำเนารายงานการชันสูตพลิกศพ
6. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เอาประกัน พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
7. สำเนาทะเบียนบ้านที่มีการจำหน่ายการตายของผู้เอาประกัน พร้อมนำต้น-ฉบับมาแสดงด้วย
8. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับประโยชน์ พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
9. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับประโยชน์ พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
10. กรมธรรม์
11. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้รับผลประโยชน์ (กรณีให้โอนสินไหมเข้าบัญชี)
1.9 ต้องการเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีผู้ปกครองเสียชีวิต ต้องใช้เอกสารใดบ้าง
ตอบ การเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีผู้ปกครองเสียชีวิต มีเอกสารที่ต้องใช้ ดังนี้
1. หนังสือเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน (ปช.16)
2. ใบรับรองแพทย์ (ปช.17) หรือใบรายงานของแพทย์
3. เอกสารของผู้ปกครองที่เสียชีวิต
3.1 สำเนาใบมรณบัตร พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
3.2 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ปกครอง พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
3.3 สำเนาทะเบียนบ้านที่มีการจำหน่ายการตายของผู้ปกครองพร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
4. เอกสารของผู้เยาว์
4.1 สำเนาใบสูติบัตร (กรณีอายุเกิน 15 ปี ใช้สำเนาบัตรประจำตัว-ประชาชน) พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
4.2 สำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
5. กรมธรรม์เพื่อบันทึกสลักหลัง
1.10 การเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
ตอบ การเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ มีเอกสารที่ต้องใช้ดังนี้
1. หนังสือเรียกร้องสินไหมมรณกรรม (ปช.11)
2. ใบรับรองแพทย์ (ปช.17) หรือใบรายงานของแพทย์
3. สำเนาใบมรณบัตร พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
4. สำนาบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดี ที่ได้รับรองสำเนาถูกต้องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ (สำหรับเหตุที่ต้องมีการแจ้งความ)
5. สำเนารายงานการชันสูตพลิกศพ
6. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เอาประกัน พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
7. สำเนาทะเบียนบ้านที่มีการจำหน่ายการตายของผู้เอาประกัน พร้อมนำต้น-ฉบับมาแสดงด้วย
8. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับประโยชน์ พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
9. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับประโยชน์ พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
10. กรมธรรม์
11. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้รับผลประโยชน์ (กรณีให้โอนสินไหมเข้าบัญชี)
ตอบ การเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีเจ็บป่วย มีเอกสารที่ต้องใช้ ดังนี้
1. แบบฟอร์มเรียกร้องสินไหมทดแทน (ปช.16)
2. ใบรับรองแพทย์ตามแบบฟอร์มบริษัท (ปช.17)
3. ใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาลต้นฉบับ
4. ใบสรุปรายการค่ารักษาพยาบาล
5. บัตรประชาชนของผู้เอาประกัน
6. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้เอาประกัน (กรณีให้โอนสินไหม-เข้าบัญชี)
1.1 ต้องการเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง ต้องใช้เอกสารใดบ้าง
ตอบ การเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง มีเอกสารที่ต้องใช้ ดังนี้
1. แบบฟอร์มเรียกร้องสินไหมทดแทน (ปช.16)
2. ใบรับรองแพทย์ตามแบบฟอร์มบริษัท (ปช.17)
3. ใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาลต้นฉบับ
4. ใบสรุปรายการค่ารักษาพยาบาล
5. รายงานผลตรวจชิ้นเนื้อหรือรายงานการตรวจจากแพทย ์ด้วยวิธี MRI,CT Scan หรือ X-ray
6. กรมธรรม์เพื่อบันทึกสลักหลัง
7. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้เอาประกัน (กรณีให้โอนสินไหม-เข้าบัญชี)
1.2 ต้องการเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ต้องใช้เอกสารใดบ้าง
ตอบ การเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีเจ็บจากอุบัติเหตุ มีเอกสารที่ต้องใช้ ดังนี้
1. แบบฟอร์มเรียกร้องสินไหมทดแทน (ปช.16)
2. ใบรับรองแพทย์ตามแบบฟอร์มบริษัท (ปช.17)
3. ใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาลต้นฉบับ
4. ใบสรุปรายการค่ารักษาพยาบาล
5. บัตรประชาชนของผู้เอาประกัน
6. สำเนาบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดีที่ได้รับรองสำเนาถูกต้องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ (สำหรับเหตุที่ต้องมีการแจ้งความ)
7. กรณีกระดูกแตกหัก เพิ่มฟิล์มเอ็กซ์เรย
8. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้เอาประกัน (กรณีให้โอนสินไหม-เข้าบัญชี)
1.3 ต้องการเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีกรณีทุพพลภาพ ต้องใช้เอกสารใดบ้าง
ตอบ การเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีทุพพลภาพ มีเอกสารที่ต้องใช้ ดังนี้
1. แบบฟอร์มเรียกร้องสินไหมทดแทน (ปช.16)
2. ใบรับรองแพทย์ตามแบบฟอร์มบริษัท (ปช.17) ใบรายงานของแพทย์
3. ใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาลต้นฉบับ
4. ใบสรุปรายการค่ารักษาพยาบาล
5. กรมธรรม์ (เพื่อบันทึกสลักหลัง)
6. ฟิล์มเอ็กซ์เรย์ (ถ้ามี)
7. หนังสือรับรองการทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง (ถ้ามี)
8. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้เอาประกัน (กรณีให้โอนสินไหม-เข้าบัญชี)
1.4 ต้องการเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีผู้ปกครองทุพพลภาพ ต้องใช้เอกสารใดบ้าง
ตอบ การเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีผู้ปกครองทุพพลภาพ มีเอกสารที่ต้องใช้ ดังนี้
1. แบบฟอร์มเรียกร้องสินไหมทดแทน (ปช.16)
2. ใบรับรองแพทย์ตามแบบฟอร์มบริษัท (ปช.17) ใบรายงานของแพทย์
3. เอกสารของผู้ปกครองที่ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง
3.1 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ปกครองพร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
3.2 สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ปกครอง พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
4. เอกสารของผู้เยาว์
4.1 สำเนาใบสูติบัตร (กรณีอายุเกิน 15 ปี ใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน) พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
4.2 สำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
5. หนังสือรับรองการทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง (ถ้ามี)
6. กรมธรรม์เพื่อบันทึกสลักหลัง
1.5 ต้องการเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิตจากการเจ็บป่วย ต้องใช้เอกสารใดบ้าง
ตอบ การเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยมี 2 กรณีดังนี้กรณีผู้เอาประกันเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยที่บ้าน
1. หนังสือเรียกร้องสินไหมมรณกรรม (ปช.11)
2. สำเนาใบมรณบัตร พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เอาประกัน พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
4. สำเนาทะเบียนบ้านที่มีการจำหน่ายการตายของผู้เอาประกัน พร้อมนำต้น-ฉบับมาแสดงด้วย
5. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับประโยชน์ พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
6. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับประโยชน์ พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
7. กรมธรรม์
8. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้รับผลประโยชน์ (กรณีให้โอนสินไหมเข้าบัญชี)กรณีผู้เอาประกันเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยที่โรงพยาบาล
1. หนังสือเรียกร้องสินไหมมรณกรรม (ปช.11)
2. ใบรับรองแพทย์ (ปช.17) หรือใบรายงานของแพทย์
3. สำเนาใบมรณบัตร พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
4. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เอาประกัน พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
5. สำเนาทะเบียนบ้านที่มีการจำหน่ายการตายของผู้เอาประกัน พร้อมนำต้น-ฉบับมาแสดงด้วย
6. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับประโยชน์ พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
7. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับประโยชน์ พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
8. กรมธรรม์
9. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้รับผลประโยชน์ (กรณีให้โอนสินไหมเข้าบัญชี)
1.6 ต้องการเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิตจากโรคร้ายแรง ต้องใช้เอกสารใดบ้าง
ตอบ การเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิตจากโรคร้ายแรง มีเอกสารที่ต้องใช้ ดังนี้
1. หนังสือเรียกร้องสินไหมมรณกรรม (ปช.11)
2. ใบรับรองแพทย์ (ปช.17) หรือใบรายงานของแพทย์
3. รายงานผลตรวจชิ้นเนื้อหรือรายงานการตรวจจากแพทย ์ด้วยวิธี MRI, CTScan หรือ X-ray
4. สำเนาใบมรณบัตร พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
5. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เอาประกัน พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
6. สำเนาทะเบียนบ้านที่มีการจำหน่ายการตายของผู้เอาประกัน พร้อมนำต้น-ฉบับมาแสดงด้วย
7. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับประโยชน์ พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
8. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับประโยชน์ พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
9. กรมธรรม์
10. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้รับผลประโยชน์ (กรณีให้โอนสิน-ไหมเข้าบัญชี)
1.7 ต้องการเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิจากอุบัติเหตุ ต้องใช้เอกสารใดบ้าง
ตอบ การเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ มีเอกสารที่ต้องใช้ ดังนี้
1. หนังสือเรียกร้องสินไหมมรณกรรม (ปช.11)
2. ใบรับรองแพทย์ (ปช.17) หรือใบรายงานของแพทย์
3. สำเนาใบมรณบัตร พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
4. สำนาบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดี ที่ได้รับรองสำเนาถูกต้องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ (สำหรับเหตุที่ต้องมีการแจ้งความ)
5. สำเนารายงานการชันสูตพลิกศพ
6. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เอาประกัน พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
7. สำเนาทะเบียนบ้านที่มีการจำหน่ายการตายของผู้เอาประกัน พร้อมนำต้น-ฉบับมาแสดงด้วย
8. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับประโยชน์ พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
9. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับประโยชน์ พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
10. กรมธรรม์
11. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้รับผลประโยชน์ (กรณีให้โอนสินไหมเข้าบัญชี)
1.8 ต้องการเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิตจากการถูกฆาตกรรม ต้องใช้เอกสารใดบ้าง
ตอบ การเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิตจากการถูกฆาตกรรม มีเอกสารที่ต้องใช้ดังนี้
1. หนังสือเรียกร้องสินไหมมรณกรรม (ปช.11)
2. ใบรับรองแพทย์ (ปช.17) หรือใบรายงานของแพทย์
3. สำเนาใบมรณบัตร พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
4. สำนาบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดี ที่ได้รับรองสำเนาถูกต้องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ (สำหรับเหตุที่ต้องมีการแจ้งความ)
5. สำเนารายงานการชันสูตพลิกศพ
6. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เอาประกัน พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
7. สำเนาทะเบียนบ้านที่มีการจำหน่ายการตายของผู้เอาประกัน พร้อมนำต้น-ฉบับมาแสดงด้วย
8. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับประโยชน์ พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
9. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับประโยชน์ พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
10. กรมธรรม์
11. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้รับผลประโยชน์ (กรณีให้โอนสินไหมเข้าบัญชี)
1.9 ต้องการเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีผู้ปกครองเสียชีวิต ต้องใช้เอกสารใดบ้าง
ตอบ การเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีผู้ปกครองเสียชีวิต มีเอกสารที่ต้องใช้ ดังนี้
1. หนังสือเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน (ปช.16)
2. ใบรับรองแพทย์ (ปช.17) หรือใบรายงานของแพทย์
3. เอกสารของผู้ปกครองที่เสียชีวิต
3.1 สำเนาใบมรณบัตร พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
3.2 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ปกครอง พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
3.3 สำเนาทะเบียนบ้านที่มีการจำหน่ายการตายของผู้ปกครองพร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
4. เอกสารของผู้เยาว์
4.1 สำเนาใบสูติบัตร (กรณีอายุเกิน 15 ปี ใช้สำเนาบัตรประจำตัว-ประชาชน) พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
4.2 สำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
5. กรมธรรม์เพื่อบันทึกสลักหลัง
1.10 การเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
ตอบ การเรียกร้องสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ มีเอกสารที่ต้องใช้ดังนี้
1. หนังสือเรียกร้องสินไหมมรณกรรม (ปช.11)
2. ใบรับรองแพทย์ (ปช.17) หรือใบรายงานของแพทย์
3. สำเนาใบมรณบัตร พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
4. สำนาบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดี ที่ได้รับรองสำเนาถูกต้องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ (สำหรับเหตุที่ต้องมีการแจ้งความ)
5. สำเนารายงานการชันสูตพลิกศพ
6. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เอาประกัน พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
7. สำเนาทะเบียนบ้านที่มีการจำหน่ายการตายของผู้เอาประกัน พร้อมนำต้น-ฉบับมาแสดงด้วย
8. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับประโยชน์ พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
9. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับประโยชน์ พร้อมนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
10. กรมธรรม์
11. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้รับผลประโยชน์ (กรณีให้โอนสินไหมเข้าบัญชี)
1. บริการไทยประกันชีวิตฮอตไลน์คือการบริการเกี่ยวกับเรื่องใด
ตอบ บริการไทยประกันชีวิตฮอตไลน์ คือ บริการช่วยเหลือฉุกเฉินทั่วโลก ด้านการแพทย์และการเดินทางตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งมีรายละเอียดที่ให้บริการ ดังนี้
1. บริการแนะนำด้านการแพทย์ทางโทรศัพท์
2. บริการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานพยาบาล
3. บริการส่งผู้เอาประกันเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล
4. บริการเคลื่อนย้ายผเู้ อาประกันฉุกเฉินจากสถานพยาบาลหนึ่งไปยังสถานพยาบาลอีกแห่งหนึ่งเพื่อเข้ารับการรักษาพยาบาลที่เหมาะสม และมีความพร้อมมากกว่า
5. บริการเคลื่อนย้ายผู้เอาประกันกลับประเทศไทยเพื่อรับการรักษาอย่างต่อ-เนื่อง
6. บริการส่งร่างผู้เอาประกันทเี่ สียชีวิตกลับประเทศไทย นอกจากนี้ยังให้บริ-การช่วยเหลือด้านการเดินทาง กรณีผู้เอาประกันเดินทางไปต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นบริการให้ข้อมูลก่อนการเดินทาง บริการด้านภาษา
7. บริการช่วยเหลือในกรณีกระเป๋าเดินทางหรือหนังสือเดินทางสูญหาย
8. บริการแจ้งข่าวสารฉุกเฉินให้กับครอบครัว บริการข้อมูลเกี่ยวกับสถานฑูต
1.1 สามารถแจ้งใช้บริการไทยประกันชีวิตฮอตไลน์ได้ที่ใดบ้าง
ตอบ ผู้เอาประกันสามารถแจ้งใช้บริการไทยประกันชีวิตฮอตไลน์ได้ที่หมายเลข 02-205-7714
1.2 วิธีการลงทะเบียนเดินทางไปต่างประเทศ มีจำนวน 3 คำถาม ดังนี้
1.2.1 กรณีผู้เอาประกันเดินทางไปต่างประเทศ ต้องดำเนินการอย่างไร
ตอบ ผู้เอาประกันต้องแจ้งลงทะเบียนฮอตไลน์ล่วงหน้าก่อนเดนิ ทางไปต่างประเทศอย่าง-น้อย 3 วัน (ไม่นับวันเดินทาง)
1.2.2 สามารถแจ้งลงทะเบียนเดินทางไปต่างประเทศได้ที่ใดบ้าง
ตอบ ท่านสามารถแจ้งลงทะเบียนเดินทางไปต่างประเทศได้ 2 ช่องทาง คือ
1. ทางโทรศัพท์ ที่หมายเลข 1124 กด 2 สอบถามบริการไทยประกันชีวิต-ฮอตไลน์ และกด 0 ติดต่อเจ้าหน้าที่ ตั้งแต่เวลา 8.00 - 21.00 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ
2. ทางอินเทอร์เน็ต ที่ www.thailife.com เลือกเมนูหลักหัวข้อไทยประกัน-ชีวิตฮอตไลน์ จากนั้นเลือกลงทะเบียนการใช้บริการกรณีเดินทางไปต่างประเทศ
1.2.3 การแจ้งลงทะเบียนเดินทางไปต่างประเทศบ้าง
ตอบ ข้อมูลที่ใช้ในการแจ้งลงทะเบียนเดินทางประเทศ มีดังนี้
1. ลงทะเบียนทางโทรศัพท์
- เลขที่กรมธรรม์
- ชื่อ-สกุล ภาษาไทย
- ชื่อ-สกุล ภาษาอังกฤษตามหนังสือเดินทาง
- วัน เดือน ปีเกิด
- หมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้สะดวก
- เลขที่หนังสือเดินทาง
- ประเทศปลายทาง
- วันที่เดินทางไป – กลับ
2. ลงทะเบียนทางอินเทอร์เน็ต
- เลขที่กรมธรรม์
- ชื่อ-สกุล ภาษาไทย
- ชื่อ-สกุล ภาษาอังกฤษตามหนังสือเดินทาง
- วัน เดือน ปีเกิด
- เลขที่บัตรประชาชน
- หมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้สะดวก
- อีเมลของผู้เอาประกัน
- เลขที่หนังสือเดินทาง
- ประเทศปลายทาง
- วันที่เดินทางไป – กลับ
ตอบ บริการไทยประกันชีวิตฮอตไลน์ คือ บริการช่วยเหลือฉุกเฉินทั่วโลก ด้านการแพทย์และการเดินทางตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งมีรายละเอียดที่ให้บริการ ดังนี้
1. บริการแนะนำด้านการแพทย์ทางโทรศัพท์
2. บริการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานพยาบาล
3. บริการส่งผู้เอาประกันเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล
4. บริการเคลื่อนย้ายผเู้ อาประกันฉุกเฉินจากสถานพยาบาลหนึ่งไปยังสถานพยาบาลอีกแห่งหนึ่งเพื่อเข้ารับการรักษาพยาบาลที่เหมาะสม และมีความพร้อมมากกว่า
5. บริการเคลื่อนย้ายผู้เอาประกันกลับประเทศไทยเพื่อรับการรักษาอย่างต่อ-เนื่อง
6. บริการส่งร่างผู้เอาประกันทเี่ สียชีวิตกลับประเทศไทย นอกจากนี้ยังให้บริ-การช่วยเหลือด้านการเดินทาง กรณีผู้เอาประกันเดินทางไปต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นบริการให้ข้อมูลก่อนการเดินทาง บริการด้านภาษา
7. บริการช่วยเหลือในกรณีกระเป๋าเดินทางหรือหนังสือเดินทางสูญหาย
8. บริการแจ้งข่าวสารฉุกเฉินให้กับครอบครัว บริการข้อมูลเกี่ยวกับสถานฑูต
1.1 สามารถแจ้งใช้บริการไทยประกันชีวิตฮอตไลน์ได้ที่ใดบ้าง
ตอบ ผู้เอาประกันสามารถแจ้งใช้บริการไทยประกันชีวิตฮอตไลน์ได้ที่หมายเลข 02-205-7714
1.2 วิธีการลงทะเบียนเดินทางไปต่างประเทศ มีจำนวน 3 คำถาม ดังนี้
1.2.1 กรณีผู้เอาประกันเดินทางไปต่างประเทศ ต้องดำเนินการอย่างไร
ตอบ ผู้เอาประกันต้องแจ้งลงทะเบียนฮอตไลน์ล่วงหน้าก่อนเดนิ ทางไปต่างประเทศอย่าง-น้อย 3 วัน (ไม่นับวันเดินทาง)
1.2.2 สามารถแจ้งลงทะเบียนเดินทางไปต่างประเทศได้ที่ใดบ้าง
ตอบ ท่านสามารถแจ้งลงทะเบียนเดินทางไปต่างประเทศได้ 2 ช่องทาง คือ
1. ทางโทรศัพท์ ที่หมายเลข 1124 กด 2 สอบถามบริการไทยประกันชีวิต-ฮอตไลน์ และกด 0 ติดต่อเจ้าหน้าที่ ตั้งแต่เวลา 8.00 - 21.00 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ
2. ทางอินเทอร์เน็ต ที่ www.thailife.com เลือกเมนูหลักหัวข้อไทยประกัน-ชีวิตฮอตไลน์ จากนั้นเลือกลงทะเบียนการใช้บริการกรณีเดินทางไปต่างประเทศ
1.2.3 การแจ้งลงทะเบียนเดินทางไปต่างประเทศบ้าง
ตอบ ข้อมูลที่ใช้ในการแจ้งลงทะเบียนเดินทางประเทศ มีดังนี้
1. ลงทะเบียนทางโทรศัพท์
- เลขที่กรมธรรม์
- ชื่อ-สกุล ภาษาไทย
- ชื่อ-สกุล ภาษาอังกฤษตามหนังสือเดินทาง
- วัน เดือน ปีเกิด
- หมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้สะดวก
- เลขที่หนังสือเดินทาง
- ประเทศปลายทาง
- วันที่เดินทางไป – กลับ
2. ลงทะเบียนทางอินเทอร์เน็ต
- เลขที่กรมธรรม์
- ชื่อ-สกุล ภาษาไทย
- ชื่อ-สกุล ภาษาอังกฤษตามหนังสือเดินทาง
- วัน เดือน ปีเกิด
- เลขที่บัตรประชาชน
- หมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้สะดวก
- อีเมลของผู้เอาประกัน
- เลขที่หนังสือเดินทาง
- ประเทศปลายทาง
- วันที่เดินทางไป – กลับ
1. บริการไทยประกันชีวิตเมดิแคร์คือการบริการเกี่ยวกับเรื่องใด
ตอบ บริการไทยประกันชีวิตเมดิแคร์ คือ บริการพิเศษที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการ-ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเบื้องต้นให้แก่ผู้เอาประกันของบริษัทฯ ที่ทำประกันชีวิต และซื้อสัญญาพิเศษเพิ่มเติม ได้แก่ ประกันสุขภาพ (สภ.) การประกันสุขภาพVIP พิเศษ หรือสัญญาพิเศษเพิ่มเติมประกันอุบัติเหตุ (อ.3) และมีอายุกรมธรรม์เกิน90 วันขึ้นไปนับจากวันเริ่มสัญญา หรือต่ออายุกรมธรรม์ครั้งสุดท้าย
2. ต้องการใช้บริการไทยประกันชีวิตเมดิแคร์ ต้องดำเนินการอย่างไร
ตอบ ผู้เอาประกันยื่นบัตรประจำตัวผู้เอาประกัน พร้อมบัตรประชาชน เพื่อขอใช้สิทธิไทย-ประกันชีวิตเมดิแคร์ กับโรงพยาบาลในเครือข่ายของไทยประกันชีวิต
3. สามารถใช้บริการไทยประกันชีวิตเมดิแคร์กรณีผู้ป่วยนอกได้หรือไม่
ตอบ ผู้เอาประกันสามารถใช้บริการไทยประกันชีวิตเมดิแคร์กรณีผู้ป่วยนอกได้ โดยมีเงื่อนไขการใช้บริการ ดังนี้
1. ต้องมีสัญญาพิเศษเพิ่มเติม สภ., สพ., สพ.1, วพ., อ.03 และกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (พี.เอ.)
2. อายุกรมธรรม์พ้น 90 วัน นับแต่วันทำสัญญา หรือวันที่ต่ออายุสัญญาครั้งสุดท้าย และกรมธรรม์ต้องมีผลบังคับ ณ วันที่เขา้ รับการรักษา
3. ผู้เอาประกันต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยในโรง-พยาบาลเครือข่าย โดยเป็นไปตามเงื่อนไขที่โรงพยาบาลและบริษัทกำหนดไว้
หมายเหตุ: สัญญาพิเศษเพิ่มเติม สภ. , สพ. , สพ.1 , วพ. สามารถใช้สิทธิได้เฉพาะความคุ้มครองคารักษาพยาบาลพิเศษเฉพาะค่าผ่าตัดหรือหัตถการกรณีผู้ป่วยนอกเท่านั้น
ตอบ บริการไทยประกันชีวิตเมดิแคร์ คือ บริการพิเศษที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการ-ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเบื้องต้นให้แก่ผู้เอาประกันของบริษัทฯ ที่ทำประกันชีวิต และซื้อสัญญาพิเศษเพิ่มเติม ได้แก่ ประกันสุขภาพ (สภ.) การประกันสุขภาพVIP พิเศษ หรือสัญญาพิเศษเพิ่มเติมประกันอุบัติเหตุ (อ.3) และมีอายุกรมธรรม์เกิน90 วันขึ้นไปนับจากวันเริ่มสัญญา หรือต่ออายุกรมธรรม์ครั้งสุดท้าย
2. ต้องการใช้บริการไทยประกันชีวิตเมดิแคร์ ต้องดำเนินการอย่างไร
ตอบ ผู้เอาประกันยื่นบัตรประจำตัวผู้เอาประกัน พร้อมบัตรประชาชน เพื่อขอใช้สิทธิไทย-ประกันชีวิตเมดิแคร์ กับโรงพยาบาลในเครือข่ายของไทยประกันชีวิต
3. สามารถใช้บริการไทยประกันชีวิตเมดิแคร์กรณีผู้ป่วยนอกได้หรือไม่
ตอบ ผู้เอาประกันสามารถใช้บริการไทยประกันชีวิตเมดิแคร์กรณีผู้ป่วยนอกได้ โดยมีเงื่อนไขการใช้บริการ ดังนี้
1. ต้องมีสัญญาพิเศษเพิ่มเติม สภ., สพ., สพ.1, วพ., อ.03 และกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (พี.เอ.)
2. อายุกรมธรรม์พ้น 90 วัน นับแต่วันทำสัญญา หรือวันที่ต่ออายุสัญญาครั้งสุดท้าย และกรมธรรม์ต้องมีผลบังคับ ณ วันที่เขา้ รับการรักษา
3. ผู้เอาประกันต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยในโรง-พยาบาลเครือข่าย โดยเป็นไปตามเงื่อนไขที่โรงพยาบาลและบริษัทกำหนดไว้
หมายเหตุ: สัญญาพิเศษเพิ่มเติม สภ. , สพ. , สพ.1 , วพ. สามารถใช้สิทธิได้เฉพาะความคุ้มครองคารักษาพยาบาลพิเศษเฉพาะค่าผ่าตัดหรือหัตถการกรณีผู้ป่วยนอกเท่านั้น
1. บัตรไทยไลฟ์การ์ดคือบัตรอะไร
ตอบ บัตรไทยไลฟ์การ์ด คือ บัตรสะสมแต้มเพื่อใช้รับสิทธิประโยชน์พิเศษ และเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของคลับไทยประกันชีวิต
1.1 วิธีการสมัครสมาชิก มีจำนวน 2 คำถาม ดังนี้
1.1.1 สามารถสมัครสมาชิกบัตรไทยไลฟ์การ์ดได้ที่ใด
ตอบ ท่านสามารถสมัครบัตรไทยไลฟ์การ์ดได้ ดังนี้
1. ทางไปรษณีย์ โดยกรอกข้อมูลใบสมัคร และจัดส่งเอกสารมายังส่วนลูกค้าสัมพันธ์
2. ทางบริษัทไทยประกันชีวิตจำกัด (มหาชน) ได้ทุกสาขาทั่วประเทศ
3. ทางอินเทอร์เน็ต www.thailife.com
4. ทางโทรศัพท์ที่หมายเลข 1124 กด 5 วันทำการจันทร์ - ศุกร์ ตั้งแต่เวลา08.30 - 17.00 น.
1.1.2 กรณีไม่ได้รับบัตรไทยไลฟ์การ์ด สามารถติดต่อได้ที่ใด
ตอบ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลข 1124 กด 5
2. ผู้ถือบัตรไทยไลฟ์การ์ดจะได้รับสิทธิพิเศษด้านใดบ้าง
ตอบ ผู้ถือบัตรไทยไลฟ์การ์ดจะได้รับสิทธิพิเศษตามสถานที่ที่ระบุไว้ในคู่มือการใช้บัตรซึ่งจะจัดส่งให้กับสมาชิกพร้อมบัตรหลังจากที่ได้รับใบสมัครแล้ว โดยจำแนกเป็นหมวดสิทธิประโยชน์และกิจกรรมได้ ดังนี้
1. ร้านอาหาร
2. โรงแรมรีสอร์ท
3. สุขภาพและความงาม
4. การเรียนรู้และการศึกษา
5. กิจกรรมเพื่อการศึกษา
6. การดูแลรักษารถยนต์
3. สามารถสอบถามสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ถือบัตรไทยไลฟ์การ์ดได้ที่ใด
ตอบ ท่านสามารถสอบถามสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ถือบัตรไทยไลฟ์การ์ดได้ที่หมายเลข1124 กด 5
ตอบ บัตรไทยไลฟ์การ์ด คือ บัตรสะสมแต้มเพื่อใช้รับสิทธิประโยชน์พิเศษ และเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของคลับไทยประกันชีวิต
1.1 วิธีการสมัครสมาชิก มีจำนวน 2 คำถาม ดังนี้
1.1.1 สามารถสมัครสมาชิกบัตรไทยไลฟ์การ์ดได้ที่ใด
ตอบ ท่านสามารถสมัครบัตรไทยไลฟ์การ์ดได้ ดังนี้
1. ทางไปรษณีย์ โดยกรอกข้อมูลใบสมัคร และจัดส่งเอกสารมายังส่วนลูกค้าสัมพันธ์
2. ทางบริษัทไทยประกันชีวิตจำกัด (มหาชน) ได้ทุกสาขาทั่วประเทศ
3. ทางอินเทอร์เน็ต www.thailife.com
4. ทางโทรศัพท์ที่หมายเลข 1124 กด 5 วันทำการจันทร์ - ศุกร์ ตั้งแต่เวลา08.30 - 17.00 น.
1.1.2 กรณีไม่ได้รับบัตรไทยไลฟ์การ์ด สามารถติดต่อได้ที่ใด
ตอบ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลข 1124 กด 5
2. ผู้ถือบัตรไทยไลฟ์การ์ดจะได้รับสิทธิพิเศษด้านใดบ้าง
ตอบ ผู้ถือบัตรไทยไลฟ์การ์ดจะได้รับสิทธิพิเศษตามสถานที่ที่ระบุไว้ในคู่มือการใช้บัตรซึ่งจะจัดส่งให้กับสมาชิกพร้อมบัตรหลังจากที่ได้รับใบสมัครแล้ว โดยจำแนกเป็นหมวดสิทธิประโยชน์และกิจกรรมได้ ดังนี้
1. ร้านอาหาร
2. โรงแรมรีสอร์ท
3. สุขภาพและความงาม
4. การเรียนรู้และการศึกษา
5. กิจกรรมเพื่อการศึกษา
6. การดูแลรักษารถยนต์
3. สามารถสอบถามสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ถือบัตรไทยไลฟ์การ์ดได้ที่ใด
ตอบ ท่านสามารถสอบถามสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ถือบัตรไทยไลฟ์การ์ดได้ที่หมายเลข1124 กด 5
1. บริการ iService ให้บริการเกี่ยวกับเรื่องใด
ตอบ iService คือบริการออนไลน์ที่เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้เอาประกันยิ่งขึ้น โดยผู้เอาประกันสามารถสมัครใช้บริการต่างๆ ที่น่าสนใจของไทยประกันชีวิตได้อย่างง่ายดายบนเว็บไซต์ไม่ว่าจะเป็นการดูข้อมูลกรมธรรม์ การเปลี่ยนแปลงที่อยู่ การขอใบแจ้งชำระเบี้ยประกัน การขอหนังสือรับรองการชำระเบี้ยประกันเพื่อลด-หย่อนภาษี และบริการอื่นอีกมากมาย
2. สามารถสมัครเข้าใช้การบริการ iService ได้ที่ใด
ตอบ ท่านสามารถสมัครเข้าใช้บริการ iService ได้ที่ www.thailife.com
ตอบ iService คือบริการออนไลน์ที่เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้เอาประกันยิ่งขึ้น โดยผู้เอาประกันสามารถสมัครใช้บริการต่างๆ ที่น่าสนใจของไทยประกันชีวิตได้อย่างง่ายดายบนเว็บไซต์ไม่ว่าจะเป็นการดูข้อมูลกรมธรรม์ การเปลี่ยนแปลงที่อยู่ การขอใบแจ้งชำระเบี้ยประกัน การขอหนังสือรับรองการชำระเบี้ยประกันเพื่อลด-หย่อนภาษี และบริการอื่นอีกมากมาย
2. สามารถสมัครเข้าใช้การบริการ iService ได้ที่ใด
ตอบ ท่านสามารถสมัครเข้าใช้บริการ iService ได้ที่ www.thailife.com
1. กรณีต้องการทำบัตรประจำตัวผู้เอาประกันใหม่ ต้องติดต่อที่ใด
ตอบ ท่านสามารถติดต่อได้บริษัทไทยประกันชีวิตจำกัด (มหาชน) ทุกสาขาทั่วประเทศหรือสำนักงานใหญ่ ส่วนบริการผู้เอาประกัน ชั้น 1 โดยกรอกแบบฟอร์มใบคำร้อง-ขอเปลี่ยนแปลงแก้ไข และจ่ายค่าธรรมเนียมการออกบัตรใหม่ 50 บาท ต่อ 1 ใบ
ตอบ ท่านสามารถติดต่อได้บริษัทไทยประกันชีวิตจำกัด (มหาชน) ทุกสาขาทั่วประเทศหรือสำนักงานใหญ่ ส่วนบริการผู้เอาประกัน ชั้น 1 โดยกรอกแบบฟอร์มใบคำร้อง-ขอเปลี่ยนแปลงแก้ไข และจ่ายค่าธรรมเนียมการออกบัตรใหม่ 50 บาท ต่อ 1 ใบ